top of page

เสริมก้น, สะโพก

การเสริมก้นและเสริมสะโพก ปัจจุบันศัลยแพทย์แนะนำให้เสริมด้วยถุงซิลิโคน เนื่องจากมีความปลอดภัยรูปทรงแน่นอน และสามารถกำหนดขนาดได้ว่า และเมื่อเกิดปัญหาสามารถผ่าตัดแก้ไขได้ ส่วนการวางตำแหน่งถุงซิลิโคนนั้น ถ้ามีเนื้อก้นมากอยู่แล้ว แต่ต้องการสะโพกที่ผาย ก็จะวางตำแหน่งซิลิโคนออกทางด้านข้างมากขึ้น แต่ถ้าคนไข้มีสะโพกผายอยู่แล้ว แต่ต้องการก้นที่มีความนูนด้านหลัง ก็จะวางซิลิโคนค่อนมาตรงกลาง

 เสริมสะโพก  

เป็นเทคนิคภายใต้คอนเซ็ปต์ “แผลเล็ก เจ็บน้อย หายไว และผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ” โดยนำเทคโนโลยีอันทันสมัย เข้ามาผนวกรวมกับเทคนิคการผ่าตัดขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็น “เทคนิค Dual Plane” ซึ่งเป็นเทคนิคการวางซิลิโคนเสริมก้น

– เสริมสะโพก ที่มีการผสมผสานทั้งแบบเหนือกล้ามเนื้อและระหว่างกล้ามเนื้อ โดยบริเวณส่วนในของก้น

 – สะโพก เป็นส่วนที่มีเนื้อมาก ดังนั้น ศัลยแพทย์จะใส่ซิลิโคนเหนือกล้ามเนื้อ เพื่อให้ซิลิโคนกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกับเนื้อก้นไม่แยกชั้นกัน เช่นเดียวกับ สะโพกด้านข้าง เป็นบริเวณที่มีเนื้อหน้าสะโพกน้อย การวางถุงซิลิโคน ศัลยแพทย์จะวางเสริมระหว่างกล้ามเนื้อ เพื่อให้มีกล้ามเนื้อมาคลุม ทำให้ไม่เห็นขอบซิลิโคนชัด เพิ่มความเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนศัลยกรรมเสริมก้น

– เสริมสะโพก แพทย์จะทำการตรวจวิเคราะห์ และปรับตามโครงสร้างของแต่ละคน เพื่อผลลัพธ์ที่มีความเป็นธรรมชาติ

ข้อควรปฏิบัติก่อนการผ่าตัดเสริมสะโพก 

1. แจ้ง ประวัติการแพ้ยาที่รับประทาน หรือยาชา ยาสลบ ให้แพทย์ทราบ
2. หากมีโรคประจำตัว,ยาที่ใช้ประจำ ควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแลและแจ้งแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดล่วงหน้า
3. หากเป็นโรคที่รักษาหายขาด ควรรักษาให้หายก่อน
4. หรือหากเป็นโรคที่ไม่หายขาด เช่น เบาหวาน ความดัน หรือ หัวใจ ต้องควบคุมร่างกายให้ปกติก่อน
5. งดหรือเลิกสูบบุหรี่ อย่างน้อย 4 สัปดาห์ ก่อนและหลังผ่าตัด เพราะจะทำให้แผลหายช้า
6. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในคืนก่อนผ่าตัด และ 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
7. งดกลุ่มยาที่จะมีผลต่อการหยุดเลือด เช่น แอสไพริน อย่างน้อย1สัปดาห์ก่อนการผ่าตัดและวิตามินอาหารเสริมต่างๆ เช่น วิตามินอี  น้ำมันปลา เมล็ดองุ่น ใบแปะก๊วย โสม
8. รายที่ต้องใช้ยาดมสลบควรงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
9. เตรียมใส่เสื้อผ้าที่หลวมสบาย ถอดใส่ง่าย งดการใช้โลชั่นบริเวณลำตัวในเช้าวันที่จะผ่าตัด
10. เตรียมภาวะจิตใจให้พร้อมและควรรับทราบว่าหลังการผ่าตัดมีโอกาสเกิดรอยช้ำและการเปลี่ยนแปลง  ซึ่งต้องใช้เวลาในการเข้าที่

ข้อควรปฏิบัติหลังการผ่าตัดเสริมสะโพก 

1. นอนพักที่โรงพยาบาลประมาณ 1-2 วัน
2. โดยทั่วไปใส่สายระบายน้ำเหลืองประมาณ 1- 2 วันเพื่อป้องกันน้ำเหลืองหรือเลือดคั่ง
3. ต้องนอนคว่ำหรือตะแคงข้างเท่านั้น อย่างน้อยที่สุด 1สัปดาห์ เพราะจะกดถุงซิลิโคน
4. หลังจาก 1สัปดาห์ก็อาจเปลี่ยนอิริยาบถเป็นนั่ง นอนหงาย ได้ตามปกติ แต่ขอให้มีวัสดุหรือบนหมอนนิ่มๆ รองนั่ง
5. ไม่ให้แผลเปียกน้ำ 7 วันกรณีขับถ่ายไม่ให้ฉีดน้ำล้างให้ซับด้วยกระดาษชำระ
6. รับประทานอาหารอ่อน
7. หลังการผ่าตัดจะให้คนไข้พัน Elastic  bandage ที่สะโพกหรือใส่กางเกงรัดไว้เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ซึ่งจะช่วยควบคุมตำแหน่งซิลิโคนไม่ให้เคลื่อนย้ายไปมา
8. โดยทั่วไปจะตัดไหมประมาณ 7 -10 วันแล้วแต่ความตึงของแผล
9. ประมาณ 10 วัน สามารถทำงานประจำวันได้สามารถขับรถได้
10. สามารถออกกำลังกายตามปกติหลัง 4 อาทิตย์
11. ห้ามฉีดยา ที่สะโพกเด็ดขาด

bottom of page