top of page

ดูดไขมันใบหน้า

การดูดไขมันใบหน้า เริ่มเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากการดูดไขมันนั้นแตกต่างจากการฉีดสารสะลายไขมัน ยกตัวอย่างเช่นแฟต การดูดไขมันใบหน้าจะให้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจกว่า เพราะเป็นการดูดออกอย่างตรงจุด แต่จำเป็นจะต้องสวมใส่ที่รัดเหนียงหลังทำศัลยกรรมให้ผิวหนังผสานกันให้เข้ารูปสวย เพราะผิวหนังบริเวณที่ดูดถูกเซาะด้วยเครื่องมือแพทย์นั้นเอง

เลือกใช้การลดไขมันใบหน้าอย่างถูกวิธี

เนื่องจากบริเวณใบหน้า เป็นตำแหน่งที่เสี่ยงต่อเส้นประสาทในการดูดไขมัน ดังนั้นการลดไขมันบริเวณใบหน้า จึงควรเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมตามตำแหน่ง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงต่าง ๆ 

1. ไขมันกระพุ้งแก้ม : คือไขมันที่อยู่ใต้ชั้นกล้ามเนื้อ ติดกับกระพุ้งแก้มในปากของเรา ควรเลือกใช้การผ่าตัดไขมันบริเวณนี้ออก จะช่วยให้แก้มด้านนอกยุบลงตามมา อย่างเป็นธรรมชาติ (ถ้าใช้การดูดไขมันผิวจะเหี่ยว เป็นคลื่นได้)

2. ไขมันกรอบหน้า : คือไขมันเหนือบริเวณกระดูกกราม เป็นตำแหน่งที่สามารถใช้การรักษาด้วยการดูดไขมันได้ มักได้ผลดี ทำให้เห็นกรอบหน้าชัดเจนยิ่งขึ้น และปลอดภัย 

ดูดไขมันเหนียง กรอบหน้า ทำลายเซลล์ไขมันอย่างถาวร เหมาะกับใคร

สิ่งแรกที่แพทย์ที่คลินิกจะต้องทำก่อนการดูดไขมันบริเวณเหนียง คือการประเมิณก่อนว่า คุณเหมาะกับการรักษาด้วยวิธีนี้จริงหรือไม่ หรือจำเป็นต้องทำการรักษาอื่นร่วมกับการดูดไขมันด้วยหรือไม่

ส่วนมากแล้วการรักษาด้วยการดูดไขมันเพียงอย่างเดียวมักจะเพียงพอ หากคุณมีลักษณะดังต่อไปนี้

1. ไขมันสะสมบริเวณเหนียงและกรอบหน้า เกินเกณฑ์มาตรฐาน เห็นไขมันส่วนเกินเป็นชั้น ป่องเป็นกระเปาะออกมา กรอบหน้าไม่ชัดจากไขมันที่เชื่อมไปถึงคอ ซึ่งแพทย์จะทำการวัดไขมันอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนการรักษา

2. ผิวหนังแข็งแรง ไม่หย่อนคล้อยเกินไป ส่วนมากผู้ที่อายุยังน้อยมักไม่มีปัญหาในข้อนี้ แต่ในท่านที่เริ่มมีอายุ ผิวหนังเริ่มหย่อน อาจจะต้องใช้การรักษาด้วยการดึงผิวหนังบริเวณคอ หรือทำการยกกระชับด้วย thermage หรือ ulthera ร่วมด้วย หลังจากการดูดไขมัน

3. กล้ามเนื้อใต้คอไม่เป็นเส้นหนาเกินไป กล้ามเนื้อลำคอ ที่ชื่อว่า Platysma (พลาทิสมา) ในบางท่านที่สูงอายุ อาจเห็นได้ชัดเจนเป็นลำ ร่วมกับความหย่อนคล้อย ควรใช้การผ่าตัดเย็บกระชับกล้ามเนื้อส่วนนี้ร่วมด้วย แต่ท่านที่ผิวหนังลำคอเรียบเนียนดี มีเส้นเล็กน้อยถือว่าเป็นเรื่องปกติ

4. กระดูกคาง และขากรรไกรสมส่วน ท่านที่คางไม่ถอย ไม่สั้น และมีกระดูกกรามชัด หลังดูดไขมันก็จะได้ผลลัพธ์ที่สวยงามแล้ว แต่หากมีปัญหาของกระดูกส่วนนี้อาจจะต้องทำการเสริมคางร่วมด้วย

การเตรียมตัวสำหรับเคสยาชา

1. คืนก่อนดูดไขมัน นอนให้เพียงพอ

2. รับประทานอาหารก่อนมาคลินิก 3 ชั่วโมง

3. งดการดื่มชา กาแฟ และน้ำอัดลม เพราะจะทำให้ปวดปัสสาวะบ่อ

4. ใส่เสื้อผ้าสีเข้ม หลวม ๆ (เพราะหลังดูดไขมันจะมีน้ำซึมออกจากแผล อาจทำให้เสื้อเปื้อนได้)

5. พาเพื่อนหรือญาติมาด้วย 1 คน ห้ามขับรถกลับเอง (เพราะอาจเกิดอันตรายได้)

การเตรียมตัวสำหรับเคสยาสลบ

·  คืนก่อนดูดไขมัน นอนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชม. 

·  งดดื่ม, กินอาหารทุกชนิด อย่างน้อย 8 ชม.

·  งดสูบบุหรี่ทุกชนิด อย่างน้อย 8 ชม.

·  งดการดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม

·  งดแต่งหน้า หรือทาครีมที่ใบหน้า

·  ไม่ใส่เครื่องประดับทุกชนิด

·  ตัดเล็บมือให้สั้น, เช็ดสีเล็บออก 1 เล็บ

·  สวมใส่เสื้อผ้าสีเข้ม และมีลักษณะหลวม

·  พาญาติหรือเพื่อนมาด้วย 1 คน ห้ามขับรถกลับเองคนเดียว

รีวิวดูดเหนียง2.jpg
รีวิวดูดเหนียง-3.jpg

เหนียง ลำคอ กรอบหน้า ที่สวยต้องเป็นอย่างไร

สำหรับรูปหน้าช่วงล่างและคอที่สวยงาม หมอจะประเมินจากหลายๆ ส่วนร่วมกัน โดยเบื้องต้นจะเป็นการดูสัดส่วน ที่เรียกว่า Youthful Neck โดยจะมีทั้งหมด 5 ข้อ ซึ่งเป็นลักษณะของช่วงกรอบหน้าและลำคอ ที่ดูสวยงามอ่อนวัยค่ะ

1. มุมองศาระหว่างคอกับคาง (Cervicomental Angle) อยู่ระหว่าง 105-120 องศา

2. มีกรอบหน้าที่ชัดเจน คมชัด (Distinct Inferior Mandibular Border)

3. ผิวหนังลำคอ กรอบหน้า เรียบเนียน กระชับ ไม่หย่อนคล้อย

4. ไม่มีเส้นบริเวณลำคอ

5. ไม่มีเส้นกล้ามเนื้อคอ (Platysma Band)

6. ไม่เห็นต่อมน้ำลายโตใต้กรอบหน้า (No Visible Submandibular Gland)

7. กล้ามเนื้อมุมกรามไม่ใหญ่จนเกินไป (Non-Hypertrophic Masseter Muscle)

ดูดไขมันเหนียง กรอบหน้า เทคนิค 360 Liposculpture 

1. วางแผนการดูดไขมันอย่างละเอียด ที่มุนอาคลินิก หมอจะทำการประเมินไขมันบริเวณเหนียง โดยดูจากภาพรวมของใบหน้า และลำคอ และที่สำคัญคือ ปริมาณไขมัน ซึ่งต้องมีอย่างเหมาะสมเพียงพอในการดูด เพราะตำแหน่งเหนียงเป็นตำแหน่งที่มีปัจจัยหลายอย่างร่วมด้วย สำหรับท่านใดที่ดูดไม่ได้ หมอก็จะแนะนำอย่างตรงไปตรงมา แล้วแนะนำวิธีการรักษาอื่นๆ ที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล

2. การฉีดยาชา tumescent เจ็บน้อย  การฉีดยาชา บริเวณเหนียง ใบหน้า กรอบหน้า จะใช้ยาชาที่ผสมกับสาร โซเดียมไบคาร์โบเนต (NaHCO3) และอะดรีนาลีน (Adrenaline) ซึ่งมีข้อดีคือ ลดความเป็นกรดทำให้อาการแสบขณะเดินยาชาน้อยลง และทำให้เส้นเลือดหดตัวจะช่วยห้ามเลือดและยาชาออกฤทธ์ได้นานและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยคะ และการฉีดยาชาบริเวณนี้ มีความเจ็บที่น้อยมาก pain score เพียง 1-2 คะแนน จากเต็มคะแนน 10 เท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องใช้การดมยาสลบเพื่อดูดไขมันบริเวณนี้

3. สลายด้วย Ultrasound ดูดแบบ Microcanular บวมช้ำน้อย ไม่บาดเจ็บเส้นประสาท การดูดไขมันบริเวณเหนียง และคอ  ต้องดูดในปริมาณที่พอดี การดูดมากไปอาจทำให้เห็นเป็นคลื่น หรือทำให้ผิวหนังบางเห็นลำกล้ามเนื้อเป็นเส้นๆ ไม่สวยงาม ดังนั้น หมอจึงต้องใช้เทคนิคการดูดแบบ intermediate - deep plane เป็นหลักซึ่งจะมีข้อดีคือ มีชั้นไขมันบางๆบริเวณใต้ผิวหนังชั้นตื้น ปกคลุมอย่างสม่ำเสมอ และ ช่วยให้นอกจากเหนียงจะเล็กลงแล้ว ผิวหนังจะเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ รวมถึงอาการบวมช้ำที่น้อยมาก คนไข้จะต้องการการพักฟื้นสั้น ๆ เพียง 2-3 วัน เพื่อใช้เวลาใส่ชุดกระชับรัดบริเวณที่ดูดไขมันให้มากที่สุด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

     เลือกใช้ เครื่อง Ultra-Z เพราะสามารถปรับให้พลังงานที่เหมาะสม ไม่แรงเกินไปจนผิวหนังไหม้ หรือบาดเจ็บต่อเส้นประสาท และสามารถสลายไขมันได้เป็นอย่างดี และเกลี่ยได้เรียบเนียน  นอกจากนี้ความร้อนที่เกิดขึ้นในระดับที่พอเหมาะ จะกระตุ้นให้ผิวหนังสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวกระชับขั้นไม่หย่อนคล้อยได้อีกด้วย

4. เก็บกรอบหน้าด้วยเทคนิคพิเศษ ปลอดภัย เห็นผลชัดเจน  บริเวณกรอบหน้า จะเป็นบริเวณที่ต้องใช้ความชำนาญของหมอเป็นพิเศษ เพราะไขมันบริเวณกรอบหน้า จะมีจุดยึดเกาะตามธรรมชาติ (mandibular ligament) เป็นตัวกั้น ทำให้เข้าถึงบริเวณนี้ได้ยาก และดูดออกให้เรียบเนียนได้อยาก และเป็นตำแหน่งของเส้นประสาท มีโอกาสบาดเจ็บต่อเส้นประสาทสูง  ซึ่งหมอจะใช้การทำแบบ tumesense hydrodissection ทำให้สามารถเข้าถึงกระเปาะไขมันนี้ได้ง่าย และดูดไขมันออกได้อย่างปลอดภัย ผ่านแผลเล็กใต้คาง ไม่จำเป็นต้องมีหลายๆ แผล

5. แผลเล็ก ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น  สำหรับการลงแผล จะเป็นการเปิดแผลเพียง 3-4 มิลลิเมตร โดยจะลงซ่อนแผลบริเวณใต้คาง เป็นจุดที่มองเห็นได้ยาก  ซึ่งแผลเดียวก็สามารถดูดได้ทั่วบริเวณที่ต้องการ จะมีการติด port บริเวณแผลป้องกันไม่ให้อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ เสียดสีกับแผล หลังดูดไขมันเสร็จ จะปิดแผลแบบ primary closure จะทำให้แผลสมานตัวได้ดี อักเสบน้อย และลดโอกาสเกิดแผลเป็นคีลอยด์ได้

6. ผิวเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ 

การดูดไขมันเหนียง และกรอบหน้า เป็นตำแหน่งที่ต้องอาศัยความละเอียดในการดูด ต้องคำนึงถึงเส้นเลือด เส้นประสาท และผังผืดต่าง ๆ 

     เรามีเทคนิคเฉพาะที่จะทำให้ผลลัพธ์การดูดเรียบเนียนมากที่สุด  ทั้งการวางแผนให้ชัดเจนว่าตำแหน่งใดที่เป็น adhesion zone ซึ่งต้องดูดในปริมาณไม่มาก ตำแหน่งใดที่ต้องเน้นการดูดเป็นพิเศษ และที่สำคัญคือการไม่ดูดไขมันออกมากจนเกินไป ต้องเหลือไขมันติดผิวไว้บ้าง เพราะไขมันติดผิวจะทำให้ผิวหนังดูเรียบเนียน และมีคุณภาพไม่หย่อนคล้อยเกินไป และการดูดไขมันติดผิวมากเกินไปจะทำให้ผิวไม่เรียบเป็นคลื่นได้

      และเพื่อความเรียบเนียนมากที่สุด แพทย์ของเรามีหลักการว่า จะเน้นการดูดเพื่อให้ได้รูปทรงที่สวยงามเป็นหลัก ส่วนปริมาณไขมันที่ดูดออกไม่ใช่สิ่งสำคัญเท่ากับรูปร่างโดยรวมทั้งหมด การดูดจะต้องมีการนำไขมันออกในปริมาณที่พอดี โดยเฉพาะการดูดไขมันเหนียงที่ปริมาณไม่มาก แต่ต้องดูดให้บางที่สุดโดยรักษาความเรียบเนียนไว้ได้ด้วย

ทุกเรื่องควรรู้ ก่อนดูดไขมันเหนียง

1. การดูดไขมันเหนียง ต้องดูหลายปัจจัยเรื่องผิวหนัง กล้ามเนื้อใบหน้าและลำคอ รูปกระดูกโครงหน้า และความหนาไขมันใต้ผิวหนัง ไขมันชั้นลึกไขมันกระพุ้งแก้มร่วมด้วย แนะนำให้เข้ามาปรึกษาหมอ เพื่อวางแผนการรักษาร่วมกันก่อนค่ะ

2. ผู้ที่ร่างกายแข็งแรงสามารถทำการดูดไขมันได้เลย เพราะเป็นการผ่าตัดเล็ก ปลอดภัย แต่ต้องงดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดยากก่อนทำ ประมาณ 1 อาทิตย์ค่ะ

3. หลังการรักษา คนไข้ต้องใส่ชุดกระชับบริเวณเหนียง ให้เยอะที่สุดเท่าที่ทำได้โดยเฉพาะในช่วง 3 วันแรก โดยประมาน 12-24 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ผิวหนังสมานตัวกับกล้ามเนื้อด้านล่าง จะทำให้บวมน้อยช้ำน้อย เข้าที่ไว การเกิดผังผืดต่างๆ ก็จะน้อยลงด้วยคะ หลังพ้น 3 วันไปแล้ว ให้ใส่ชุดกระชับต่อ 8-12 ชั่วโมงต่อวัน จนครบ 1 เดือนคะ

4. อาการที่พบได้หลังทำคือ อาการบวม ช่วง 3 วันแรก โดยมักจะไม่บวมมากกว่าก่อนดูดไขมัน และรอยช้ำสีเหลืองเขียวจางๆ หรือสีม่วงเล็กน้อย ซึ่งจะหายภายใน 1-2 สัปดาห์

5. สามารถไปทำงานได้ แนะนำให้หยุดงาน 2-3 วัน เพื่อให้สามารถใส่ชุดกระชับได้มากที่สุด ทั้งนี้ขึ้นกับแต่ละบุคคลด้วย หากไขมันปริมาณไม่มากจะบวมน้อยและฟื้นตัวไวกว่า

6. อาการเป็นไตแข็งหลังดูดเหนียง เป็นเรื่องปกติ โดยจะพบได้ประมาณช่วง 2-3 สัปดาห์และจะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ ที่ 1 เดือน หลังจากการนวด RF เพียงครั้งแรกก็จะนุ่มเรียบเนียนได้

7. ที่มุนอาจะมีการฉายแสงลดบวม การนวดกระชับ ซึ่งจะช่วยให้เข้าที่ได้เร็วขึ้น ลดการเกิดผังผืด ผิวหนังจะกลับมานุ่มและกระชับในช่วง 1 เดือนเป็นต้นไป

8. หลังการดูดไขมัน ตัดกระพุ้งแก้ม หรือ เย็บกล้ามเนื้อคอ สามารถเพิ่มความกระชับโดยการทำ Thermage หลังการรักษาที่ 2 เดือน จะช่วยกระตุ้นให้ผิวหนังชั้นนอก (dermis) สร้างคอลลาเจนและกระชับมากขึ้น ริ้วรอยเล็กๆ จางลง และผลลัพธ์จะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นได้

bottom of page