top of page

นวดกระชับสัดส่วน

RF ย่อมาจาก Radio Frequency ซึ่งคือการใช่คลื่นไฟฟ้าอ่อนๆ แบบคลื่นวิทยุ จะช่วยขจัดเซลลูไลท์และไขมันที่สะสมอยู่ตาม ใบหน้า คอ ต้นขา ต้นแขน สะโพก หน้าท้องลดลงอย่างได้ผลชัดเจน และยังช่วยในการกระชับสัดส่วนอีกด้วย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และการหดตัวของกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อชั้นบางๆ ที่อยู่ในผิวหนังทำให้ผิวหนังทั้งหมดกระชับขึ้นมากจนส่งผลให้เกิดการยกตัว

กลไกในการทำงานของ RFหรือ Radio Frequency มีอะไรบ้าง?

1. ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) เป็นผิวหนังชั้นบนสุด คลื่นวิทยุ RF (Radio Frequency) จะกระตุ้นให้เกิดการแบ่งตัวของเซลล์เพิ่มขึ้น ทำให้รูขุมขนเล็กลง ผิวเรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยดูตื้นขึ้น และยังช่วยขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวพรรณขาวกระจ่างใสขึ้น
2. ชั้นหนังแท้ (Epidermis) เป็นผิวหนังชั้นถัดลงมา คลื่นวิทยุ RF (Radio Frequency) จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนชั้นใต้ผิวหนังและเส้นใยอีลาสติน ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อย กระชับและยืดหยุ่นมากขึ้น
3. ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) คลื่นวิทยุ RF (Radio Frequency) จะไปช่วยสลายไขมันหรือลดการสะสมของไขมันส่วนเกิน และกระชับสัดส่วน

การทำ RF (Radio Frequency) เหมาะกับใคร?
– เหมาะกับคนที่ดูดไขมันมาแล้ว และต้องการให้สัดส่วนกระชับมากขึ้น โดยการนวด RF (Radio Frequency) หลังดูดไขมัน
– เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องไขมันสะสมในตำแหน่งที่กำจัดหรือลดได้ยาก
– เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมเล็กน้อย และไม่ต้องการใช้วิธีการฉีกหรือดูดออก
– เหมาะกับคนที่มีผิวหนังไม่กระชับ มีริ้วรอย และมีรอยแ
ตกลาย
– เหมาะกับคนที่มีเซลลูไลท์ และผิวไม่เรียบเนียน

ข้อดีของการทำ RF (Radio Frequency)
– เป็นวิธีการดูแลผิวที่ไม่เจ็บ อีกทั้งการนวดยังทำให้เกิดความผ่อนคลาย
– ไม่ต้องพักฟื้น หลังการรักษาสาม
ารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
– ไม่มีผลข้าง เคียงในการรักษา

ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ RF (Radio Frequency)
– ช่วยเร่งการเผาผลาญของไขมัน
– ช่วยเร่งการเผาผลาญของไขมัน
– กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวเรียบเนียนและกระชับสัดส่วน
– กระตุ้นให้ร่างกายขับของเสียในรูปของเหงื่อและน้ำเหลือง
– ในบางรายอาจน้ำหนักลด
– ลดพังผืดใต้ผิวหนัง หรือก่อนแข็งๆใต้ผิวหนัง
– ทำให้รู้สึกผ่อนคลายหรือสบายตัวขึ้นหลังทำ RF(Radio Frequency)

การทำ RF(Radio Frequency) มีข้อควรระวังอะไรบ้าง ?
– ผู้ป่วยต้องถอดเครื่องประดับที่เป็นโลหะทุกชนิดก่อนเริ่มทำมิฉะนั้นอาจเกิดการช็อตได้, ห้ามผู้ป่วยและผู้ปฏิบัติสัมผัสตัวกัน มิฉะนั้นอาจเกิดการสปาร์คได้ และเตือนผู้ป่วยว่าไม่ควรขยับตัวบ่อย เพราะอาจทำให้แผ่นสื่อไฟฟ้าสถิตได้
– ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะทำ RF เพราะคลื่นจากโทรศัพท์จะรบกวนคลื่นวิทยุทำให้เครื่องมือเสียหายได้
– ไม่เหมาะสมกับคนเป็นฝ้า เพราะความร้อนจะทำให้ผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มมากขึ้น
– บริเวณที่ทำต้องมีตัวยาหล่อลื่นอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่มีตัวยาอยู่บริเวณที่ทำ อาจจะทำให้ผิวไหม้ได้และไม่ควรทำบริเวณไรผม

       การทำ RF แต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 10-60 นาที แล้วแต่บริเวณที่ต้องการ สามารถทำได้ 1-3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ จนครบ 10-15 ครั้ง ผลการทำจะสังเกตได้ตั้งแต่ครั้งแรกว่าสัดส่วนกระชับขึ้น ผิวเรียบเนียนตึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

การปฏิบัติหรือการดูแลตัวเองหลังการนวด RF (Radio Frequency)
– สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น
– หลังจากการนวดไปแล้ว 24 ชม. ให้ดื่มน้ำตามเฉลี่ย 3 ลิตร
– ควบคุมอาหารหลังการทำดูดไขมัน สลายไขมันและนวด RF (Radio Frequency) ไปแล้ว จะช่วยส่งผลดียิ่งขึ้น
– ออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับได้ดียิ่งขึ้น เป็นการเพิ่มความเร็วในการยกกระชับผิวหลังทำการจัดการกับไขมันไปแล้ว

bottom of page